ทำความรู้จัก บอนไซเพรมน่า เพรมน่านั้นเป็นสกุลของต้นไม้ตระกูลมิ้นท์ (Lamiaceae) ในเขตร้อน หรือ กึ่งเขตร้อนประมาณ 200 ชนิด และมีลักษณะเป็นไม้พุ่ม ซึ่งพบแพร่หลายใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลียตอนเหนือ สายพันธุ์เพรมน่า ส่วนใหญ่ต้องการอุณหภูมิสูงกว่า 50 °F (10 °C) ชอบสถานที่ที่โปร่งสบายในแดดจัด แค่เมื่อวางไว้บอนไซเพรมน่าในบ้าน จะต้องการสถานที่ที่อบอุ่น ที่มีความชื้นค่อนข้างสูง และแสงไฟฟ้ามาก สายพันธุ์เพรมน่าที่นิยมปลูกเป็นบอนไซได้แก่ เพรมน่าไต้หวัน, เพรมน่าด่าง, เพรมน่าไทย
1. บอนไซเพรมน่า ไต้หวัน
บอนไซเพรมน่าไต้หวัน เป็นไม้บอนไซที่นิยมนำมาทำบอนไซได้ทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ และขนาดจิ๋วในถาด เพราะเป็นไม้ที่เลี้ยงง่าย เกาะหินได้ดี โชว์รากโหย่งได้สวยงาม การเจริญเติบโตตามธรรมชาติของเพรมน่าไต้หวัน คือ ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่มีใบยาว 6-8 นิ้ว แต่ใบเหล่านี้ จะลดขนาดลงอย่างมาก ด้วยเทคนิคการดูแลบอนไซที่เหมาะสม จะได้ขนาดใบ มีตั้งแต่ 1/2 นิ้วถึงยาวกว่า 5 นิ้ว เปลือกลำต้นสีน้ำตาลเทา ดอกมีขนาดเล็กสีขาวและเรียงรายเป็นกลุ่ม
2. บอนไซเพรมน่าด่าง
เพรมน่าด่าง เป็นทั้งไม้ทนแล้งและอยู่ในที่ชื้นได้ เช่น บ๊วยน้ำ และเกล็ดปลาหมอ มีข้อเสีย คือ ทิ้งกิ่งง่าย ต้องเปลี่ยนดิน ตัดซอยกิ่งบ่อย ๆ แต่รูปทรงตอใหญ่ขนาดจัมโบ้ สวยน่ารัก พุ่มสวย โครงสร้างดี เกินคำบรรยาย โดยเฉพาะตะโกนาใบด่าง ถือเป็นความงามระดับพรีเมี่ยม
3. บอนไซเพรมน่าไทย
บอนไซเพรมน่าไทยเช่น หมากเล็ก เฟื่องฟ้า โมก ส้ม และมะสัง เลี้ยงง่าย มีความหลากหลาย ราคาย่อมเยา แตกต่างจากบอนไซต่างประเทศที่ บอนไซเพรมน่าไทยไม้ไทยให้ความรู้สึกที่หลากหลายตามชนิดพันธุ์ของไม้ เมื่อเปรียบเทียบกับบอนไซต่างประเทศค่อนข้างจะมีอัตลักษณ์ไปในทางเดียวกัน แต่มีความสวยคนละแบบกัน ต้องลำต้นใหญ่และสวย มีลีลา ลำต้นตั้งตรงมาก
บอนไซเพรมน่า มีความสวยสง่า ยิ่งเป็นไม้เก่าจะยิ่งเพิ่มมนต์ขลัง ให้ความรู้สึกว่าถึงความเท่ ความเก๋า และคลาสสิค ค่อนข้างอิสระไม่มีรูปแบบเฉพาะ สามารถเลี้ยงตามใจ หากปลูกบอนไซ ให้ลำต้นเอนเอียงเล็กน้อย และบังคับกิ่งไปตามลำต้นจะได้อารมณ์ไปอีกแบบ บอนไซยังมีอีกหลายมิติ ที่สำคัญบอนไซจะช่วยฝึกระเบียบ ฝึกนิสัย ให้เราเป็นคนอารมณ์สงบ มีสมาธิมากขึ้น เพราะเราต้องโฟกัสอยู่กับสิ่งนั้น ทำให้ได้งานสวยๆ ที่เป็นความตั้งใจจริง ลองเลี้ยงบอนไซเพรมน่า แล้วคุณจะสงบผ่อนคลายอย่างแท้จริง
อ่านบทความเพิ่มเติม
https://garden-plaza.org/บอนไซนอก/
เครดิตภาพ