หลายคนที่รักต้นไม้และสนใจต้นไม้ญี่ปุ่นเป็นพิเศษ มักจะเคยได้ยินสิ่งที่เรียกว่า “บอนไซ” แท้จริงแล้วสิ่งนี้คืออะไรกันแน่ บอนไซคืออะไร ต้นไม้ที่มีลักษณะอย่างไร วันนี้เราจะมาคุยกัน
บอนไซคืออะไร
หากถามว่าบอนไซคืออะไรนั้น แท้จริงแล้วจะบอกว่า บอนไซคือต้นไม้ก็ไม่ได้ถูกเสียทีเดียว แต่บอนไซคือศิลปะญี่ปุ่นแขนงหนึ่ง ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาให้มีลักษณะโดดเด่นเฉพาะ และไม่เหมือนศิลปะแขนงอื่น ๆ ของญี่ปุ่นหรือของที่ไหนก็ตาม ศิลปะที่ว่าคือศิลปะการเพาะต้นไม้ลงในกระถางขนาดเล็ก และที่สำคัญต้นไม้ต้นนั้นต้องได้รับการดูแลอย่างเต็มที่และทะนุถนอมมากที่สุด หลักการคือการปลูกต้นไม้ในกระถางเล็ก ๆ นี้เปรียบเสมือนการจำลองป่า หรือธรรมชาติต่าง ๆ ให้มาอยู่ในกระถางต้นไม้ หรือป่าจำลองขนาดเล็กของเรา
มีความพยายามจะเลียนแบบธรรมชาติ โดยทำการย่อส่วนต้นไม้ขนาดใหญ่ในป่าตามธรรมชาติ ดังนั้นจึงมีการดัดกิ่งก้านของต้นไม้ให้มีลักษณะโค้งงอ โดยอาจใช้ลวดยึดไว้ให้อยู่กับที่ หรือให้รากนั้นทำหน้าที่แตกกิ่งก้านไปบนโขดหินที่เรานำมาวางไว้ การปลูกบอนไซนั้นเป็นศิลปะแขนงหนึ่งที่จำเป็นต้องใช้เทคนิคหลากหลาย และการปรับเปลี่ยนใด ๆ ก็ตามตามความสร้างสรรค์ของตัวผู้ปลูก ดังนั้นจึงถือเป็นศิลปะที่มีความเพลินเป็นอย่างมาก
ประวัติศาสตร์บอนไซ
เรื่องราวของการปลูกบอนไซนั้นเกิดขึ้นในวัฒนธรรมญี่ปุ่น เริ่มต้นขึ้นในยุคเฮอัน โดยมีการนำเข้าวัฒนธรรมนี้มาจากประเทศจีนสมัยราชวงศ์ถัง ไม่นานก็เริ่มได้รับความนิยมในหมู่ชนชั้นสูงและเหล่าบรรดาซามูไรต่าง ๆ โดยในสมัยนั้นทำเป็นงานอดิเรกกัน ที่เฟื่องฟูมาก ๆ จะอยู่ในยุคที่มีชื่อว่ายุคคามาคุระ
พอเข้าสู่สมัยยุคเอโดะ ศิลปะการตกแต่งสวนขนาดเล็กในกระถางเล็ก ๆ นั้นซึ่งรวมไปถึงส่วนต่าง ๆ ของญี่ปุ่น ก็นับว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก หากยุคคามาคุระเป็นยุคเริ่มต้นที่เริ่มเฟื่องฟูแล้ว ยุคเอโดะถือว่าเป็นยุคเฟื่องฟูเต็มที่ของบอนไซยุค แม้ว่าคนญี่ปุ่น จะปลูกบอนไซกันเป็นงานอดิเรก แต่ก็มีการดูแลจัดแต่งทรง ให้น้ำ และค่อย ๆ เฝ้ามองต้นไม้เติบโตขึ้นมาทีละเล็กละน้อยวันต่อวัน โดยทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจ อีกทั้งยังทุ่มเทเวลา ซึ่งนานพอสมควรด้วย
เนื่องด้วยใช้ทรัพยากรเยอะ ทั้งทรัพยากรเวลา ทุ่มเทใจ และใช้เงินในการปลูกมากด้วย ดังนั้นในยุคเมจิ คนที่ยังคงเล่นบอนไซอยู่จึงเหลือแต่คนที่มีใจรักมาก ๆ จริง ๆ เท่านั้นและส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนในช่วงอายุสูงวัยที่พอจะมีเวลา ทำให้หลังจากนั้น ค่านิยมในการปลูกบอนไซนี้ได้กลายเป็นค่านิยมที่ดูเก่าคร่ำครึและไม่ทันสมัยเอาเสียเลย แต่ในขณะเดียวกัน ตั้งแต่ช่วงปี 1990 เป็นต้นมา บอนไซก็เริ่มเป็นที่นิยมในหมู่ชาวต่างชาติ และได้แพร่กระจายไปทั่วโลกมากขึ้น ทำให้แม้แต่คนญี่ปุ่นที่เคยมองบอนไซเป็นวัฒนธรรมเก่าแก่คร่ำครึ หยิบมาบูรณะฟื้นฟูอีกครั้ง
ส่วนประกอบของบอนไซ
อย่างที่บอกว่า บอนไซเปรียบเสมือนการเอาธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ มาย่อให้อยู่ลงในกระถางเล็ก ๆ ให้เราได้ชื่นชม นอกจากมุมมองที่สวยงามที่เราต้องใส่ใจแล้ว ในส่วนอื่น ๆ อย่างต้นไม้ของเรา ทั้งในส่วนของลำต้น ก้าน ใบ กิ่ง และราก ก็จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันด้วย
ในส่วนของลำต้นนั้น ลำต้นที่หนุนต้นไม้ไว้เป็นจุดหนึ่งที่จำเป็นต้องดูแล ในส่วนบริเวณลำต้นตั้งแต่รากไปจนถึงกิ่งแรก เราจะเรียกว่า “การตั้งลำต้น” การที่ลำต้นแผ่ขยายออกไปจากส่วนนี้ แสดงความหมายถึงพลังแห่งธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ที่แพร่กระจายออกไปแบบต้นไม้ใหญ่
กิ่งก้านสาขาต่าง ๆ นั้นก็สำคัญการสร้างลำต้นของบอนไซเอง จะเกิดขึ้นจากการแตกกิ่งก้านจากลำต้น ซึ่งควรที่จะมีความสมดุลที่ดีของขนาดลำต้นขนาดใหญ่ และกิ่งที่แต่ขยายออกมา อีกทั้งต้นไม้ที่มีใบร่วงหล่น ก็อาจมองเห็นกิ่งก้านที่แตกสาขาออกไปได้อย่างละเอียดมากขึ้นด้วย
ไม่ใช่แค่เรื่องลำต้นเท่านั้น แม้แต่ใบไม้ก็มีอิทธิพลต่อบอนไซเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าจะเป็นต้นไม้ชนิดเดียวกัน แต่หากเทียบกับลักษณะแล้ว ต้นไม้ที่มีลักษณะใบสั้นและใบมีความมันเงา จะถือว่าเป็นต้นที่ค่อนข้างดีเป็นพิเศษ
อ่านบทความเพิ่มเติม
https://garden-plaza.org/
เครดิตภาพ
https://google.com/